ฟิลเลอร์หน้าผาก 1
ฟิลเลอร์หน้าผาก

8 ข้อควรรู้ก่อนฉีด โปรแกรม ฟิลเลอร์หน้าผาก

หน้าผากที่โหนกนูนรับกับรูปหน้า ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของใบหน้าที่เสริมให้ดูอ่อนเยาว์ อิ่มฟู และมีเสน่ห์ โดยเฉพาะในศาสตร์ความงามแบบเอเชีย “หน้าผากโหนก” ยังถูกมองว่าเป็นลักษณะของโหงวเฮ้งที่ดี บ่งบอกถึงความมั่งคั่ง มีวาสนา
โปรแกรม ฟิลเลอร์หน้าผาก จึงเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยเติมเต็มหน้าผากที่แบน ยุบ หรือมีร่องลึกให้เรียบเนียนและโค้งมนขึ้นได้ โดยไม่ต้องศัลยกรรม

โปรแกรมฟิลเลอร์หน้าผากคืออะไร?

คือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปบริเวณหน้าผาก เพื่อปรับรูปทรงให้โหนกนูนอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะคนที่มีหน้าผากแบน หน้าผากยุบ หรือมีร่องลึกจากอายุที่มากขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถปรับรูปหน้าโดยรวมให้สมดุล ช่วยเสริมมิติของใบหน้า และลดความแข็งของใบหน้าส่วนบนได้อย่างนุ่มนวล

โปรแกรมฟิลเลอร์หน้าผากทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานของฟิลเลอร์ คือการเติมสาร HA เข้าไปใต้ผิวชั้นลึกหรือบริเวณชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก (periosteum) เพื่อยกผิวบริเวณหน้าผากให้ดูอิ่มฟู และทำให้รูปหน้าดูละมุนขึ้น
แพทย์จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อแน่น เพื่อให้คงรูปได้ดี ไม่ไหล ไม่บิดเบี้ยว ซึ่งต้องอาศัยเทคนิคการฉีดที่แม่นยำ เพราะบริเวณหน้าผากเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก

ฟิลเลอร์หน้าผาก หมอโทนี่

โปรแกรมฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีหน้าผากแบน ราบ ไม่มีมิติ
  • ผู้ที่มีร่องหน้าผากจากอายุหรือผิวขาดความชุ่มชื้น
  • ผู้ที่อยากปรับโหงวเฮ้งให้รับทรัพย์ เสริมโชคลาภ
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
  • ผู้ที่อยากปรับรูปหน้าให้ละมุน มีความเฟมินีนมากขึ้น
รีวิว ฟิลเลอร์หน้าผาก 2
รีวิว ฟิลเลอร์หน้าผาก 3

โปรแกรม ฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยเรื่องอะไร?

  • เติมเต็มร่องหน้าผากให้เรียบ
  • ปรับรูปหน้าผากให้โหนกนูน
  • ทำให้หน้าดูเด็กลง
  • เสริมบุคลิกให้ดูอ่อนโยน มีความนุ่มนวล
  • เสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นตามศาสตร์จีน
ฟิลเลอร์หน้าผาก กับเสริมหน้าผาก

โปรแกรม ฟิลเลอร์หน้าผาก vs เสริมหน้าผาก ต่างกันอย่างไร?

วิธีการ

  • Filler หน้าผาก: ฉีดสาร Hyaluronic Acid เข้าไปในชั้นผิว
  • เสริมหน้าผาก: ผ่าตัดใส่ซิลิโคน หรือฉีดไขมันตัวเอง

ระยะเวลาพักฟื้น

  • Filler หน้าผาก: แทบไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย
  • เสริมหน้าผาก: ต้องพักฟื้นหลายวัน อาจมีบวมช้ำ

ผลลัพธ์

  • Filler หน้าผาก: เห็นผลชัดเจนทันที อยู่ได้นาน 12–18 เดือน
  • เสริมหน้าผาก: ผลลัพธ์ถาวร ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย

ความเป็นธรรมชาติ

  • Filler หน้าผาก: ปรับแต่งทรงได้ละเอียด ดูละมุนมากกว่า
  • เสริมหน้าผาก: อาจดูชัดเกินไปในบางราย หากซิลิโคนแข็งหรือทรงไม่พอดี

ความเสี่ยง

  • Filler หน้าผาก: เสี่ยงน้อย หากทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
  • เสริมหน้าผาก: เสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น ติดเชื้อ ซิลิโคนเบี้ยว

การแก้ไข

  • Filler หน้าผาก: หากไม่ชอบ สามารถสลายออกได้
  • เสริมหน้าผาก: ต้องผ่าตัดใหม่หากต้องการแก้ไข

ค่าใช้จ่าย

  • Filler หน้าผาก: ราคาขึ้นอยู่กับยี่ห้อและปริมาณที่ใช้
  • เสริมหน้าผาก: ราคาสูงกว่า แต่ทำครั้งเดียวจบ

โปรแกรม Filler หน้าผาก อันตรายไหม?

การฉีด Filler หน้าผาก ถือว่า “เป็นบริเวณที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูงมาก” เพราะอยู่ใน บริเวณ T-zone ซึ่งมีเส้นเลือดเชื่อมต่อกับเส้นเลือดในดวงตา การฉีดที่ผิดตำแหน่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาบอด ถ้าใช้แพทย์ไม่มีประสบการณ์
จึงควรฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ คุณหมอโทนี่ นายแพทย์วรพล สุขีวัฒนา (ว.30685) ใช้ฟิลเลอร์แท้ จากบริษัทที่ได้รับการรับรอง เช่น Allergan ประเทศไทย

รีวิว ฟิลเลอร์หน้าผาก 1
รีวิว ฟิลเลอร์หน้าผาก

การเตรียมตัวก่อนฉีดโปรแกรม ฟิลเลอร์หน้าผาก

  • หยุดยากลุ่มแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา อย่างน้อย 5-7 วัน
  • งดแอลกอฮอล์ 24 ชม.
  • แจ้งประวัติแพ้ยา หรือโรคประจำตัวก่อนการรักษา
  • ควรงดแต่งหน้าหรือใช้สกินแคร์บริเวณหน้าผากในวันฉีด
รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก 6
รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก 5

การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler หน้าผาก

  • งดการนวดหน้า นวดผิวบริเวณที่ฉีด 3-5 วัน
  • งดออกกำลังกายหนัก ซาวน่า แช่น้ำร้อน 3 วัน
  • อย่านอนคว่ำหรือนอนตะแคงข้างที่โดนฉีด
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวและคงรูปดี

สรุป

โปรแกรมฟิลเลอร์หน้าผาก ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูละมุน อ่อนเยาว์ และเสริมโหงวเฮ้ง โดยไม่ต้องผ่าตัด การเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญสูง และเลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อผลลัพธ์ที่สุด และเป็นธรรมชาติที่สุด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Filler หน้าผาก

1. ฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี?

ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพดี มักเป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เช่น

  • Juvederm: มีหลายรุ่นเหมาะกับจุดประสงค์ต่างกัน เช่น Voluma, Ultra เป็นที่รู้จักในด้านความคงทนและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • Restylane: อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีรุ่นต่างๆ เช่น Restylane Lyft สำหรับการยกกระชับและเติมเต็มบริเวณที่ลึก
    คำแนะนำ: แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำยี่ห้อ及รุ่นที่เหมาะกับโครงหน้าคุณที่สุด

โดยส่วนใหญ่จะไม่เจ็บมาก เนื่องจากแพทย์จะทายาชาแบบทาก่อนฉีด ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นชา และตัวฟิลเลอร์บางยี่ห้อยังผสมยาชา (Lidocaine) อยู่ภายใน ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างฉีดและหลังฉีดได้ คุณอาจรู้สึกเพียงเสียวเบาๆ หรือตึงๆ เท่านั้น

โดยเฉลี่ยแล้วฟิลเลอร์หน้าผากจะอยู่ได้ประมาณ 1 ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

ประเภทของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นมักจะอยู่ได้นานกว่า

** metabolism ของร่างกาย:** คนที่ metabolism สูง ฟิลเลอร์อาจสลายได้เร็วกว่า

ไลฟ์สไตล์: การโดนแดดบ่อย, การสูบบุหรี่, ความเครียด อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น

ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟิลเลอร์ทำงานโดยการเติมเต็มพื้นที่ใต้ผิวหนัง จึงเหมาะสำหรับการแก้ไขริ้วรอยประเภท รอยตื้น และ รอยย่น บนหน้าผาก โดยเฉพาะรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้บ้างหลังฉีดมีดังนี้

  • ผลข้างเคียงชั่วคราว (พบได้บ่อย): บวม, แดง, เจ็บจี๊ดๆ, ช้ำ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-7 วัน
  • ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย: คลำแล้วรู้สึกเป็นก้อน, อาการบวมนานผิดปกติ, การอุดตันของหลอดเลือด (ซึ่งพบได้น้อยมากแต่ร้ายแรง)
    คำแนะนำ: การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงเหล่านี้ได้อย่างมาก

ไม่มีคำตอบตายตัว เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลแต่ละคน เช่น

  • พื้นที่และความลึกของรอยย่น
  • โครงสร้างกระดูกหน้าผาก
  • ผลลัพธ์ที่ผู้รับบริการต้องการ
    โดยทั่วไปแล้ว การเติมเต็มหน้าผากอาจใช้ประมาณ 1 – 2 ซีซี ต่อครั้ง แต่แพทย์จะเป็นผู้คำนวณปริมาณที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้หน้าผากที่ดูเป็นธรรมชาติ

 

  • 24 ชั่วโมงแรก: หลีกเลี่ยงการบิด、ล้าง、หรือนวดบริเวณที่ฉีด, หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
  • 1 สัปดาห์แรก: หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น ซาวน่า、อบไอน้ำ、หรือแสงแดดจ้า, งุดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้หายช้าลงและบวมมากขึ้น
  • ทั่วไป: ทาครีมกันแดดเป็นประจำ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • อาจเกิดขึ้นได้ในบางคน เนื่องจากหน้าผากเป็นบริเวณที่ค่อนข้างบอบบาง อาการปวดหัวหรือมึนศีรษะเล็กน้อยหลังฉีดอาจเกิดจากการบวมชั่วคราวหรือปฏิกิริยาของร่างกายต่อฟิลเลอร์ อาการนี้มักจะหายไปภายใน 1-2 วัน หากปวดหัวรุนแรง、ต่อเนื่อง、หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย (เช่น ตาพร่า、เห็นภาพซ้อน) ให้รีบติดต่อแพทย์ทันที
  • ทั้งสองวิธีให้ผลลัพธ์และกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง