GLP-1 ปากกาลดน้ำหนัก

ปากกาลดน้ำหนัก อันตรายไหม ลดได้จริงรึเปล่า เสี่ยงต่อการโยโย่ หรือไม่ ?

ภาวะน้ำหนักเกินขนาด หรือโรคอ้วน เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ ซึ่งก่อนให้เกิดอันตรายกับร่างกายตามมาภายหลัง ดั้งนั้น การลดน้ำหนักจึงเป็นสิ่้งที่สำคัญมากๆ เป็นอันดับแรก และในปัจจุบันมีทางเลือกในการลดน้ำหนักมากมาย และหนึ่งในนั้นคือการใช้ปากกาลดน้ำหนัก ใช้ในการลดน้ำหนัก ลดไขมันในร่างกายได้ และไม่มีการโยโย่ กลับมาภายหลัง

ปากกาลดน้ำหนัก คืออะไร

ปากกาลดน้ำหนัก (Weight-Loss Pen) เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศเดนมาร์กช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นตัวยาลดน้ำหนักที่อยู่ในรูปของปากกาสำหรับฉีดยา โดยมีตัวยา Liraglutide ทำงานคล้ายกับฮอร์โมนที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายที่ชื่อว่า GLP-1 ซึ่งหลั่งออกมาจากสำไส้หลังการรับประทานอาหาร โดยตัว GLP-1 จะออกฤทธิ์ไปที่สมองสั่งให้ รู้สึกอิ่ม ทำให้เรากินน้อยลงจึงช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้ โดยเฉพาะถ้าทำควบคู่ไปกับโปรแกรมลดน้ำหนัก อาทิเช่น การทำ IF หรือ การออกกำลังกายก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น

ข้อดีของปากกาลดน้ำหนักที่ทำให้เป็นที่นิยมคือ สามารถใช้เองได้ที่บ้าน ลักษณะเป็นด้ามปากกา สะดวก สามารถพกพาไปได้ที่ทุก

สาเหตุทำไมเราถึงหิวบ่อย

หลักการทำงานของปากกาลดน้ำหนัก
ปกติแล้วทางเดินอาหารจะเป็นตัวสร้าง GLP-1 ขึ้นมา พอเวลาที่เราทานอาหารเข้าไปผ่านทางเดินอาหาร GLP-1 จะหลังออกมาเพื่อไปกระตุ้นสมองเพื่อให้ส่งสัญญาว่าอิ่มได้แล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่มาที่เราเอาสาร GLP-1 มาเพื่อเป็นตัวช่วยในการควบคุมการอยากอาหาร ทำให้น้ำหนักของเราลดลงมานั่นเอง

ทำไมปากกาลดน้ำหนักต้องเป็นแบบฉีด

อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าสาร GLP-1 ที่เป็นสารที่มีอยู่ในทางเดินอาหาร ซึ่งในทางเดินอาหารก็จะมีเอนไซม์ตัวนึงที่อยู่ในทางเดินอาหารเหมือนกัน ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้ก็จะเป็นตัวที่ไปทำลายสาร GLP-1 เช่นกัน ดังนั้นถ้าเป็นรูปแบบกินสาร GLP-1 ก็จะโดนทำลายในช่วงเวลาอันรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นแบบฉีดโดยที่เราฉีดเข้าไปที่ท้องสาร GLP-1 จะสามารถออกฤทธิ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพราะจะไม่โดนเอนไซม์ตัวนี้ทำลายไป

ปากกาลดน้ำหนักมีกี่ประเภท ใครเหมาะกับแบบไหน

ปกติ GLP-1 จะมีหลายรูปแบบมีแบบฉีดทุกวันและมีแบบฉีดอาทิตย์ละครั้ง โดยแนะนำให้ฉีดทุกวันเพราะจะมีผลค้างเขียงน้อยกว่า เพราะการที่ฉีดสัปดาห์ละครั้งจะต้องใช้จำนวน Dose ที่เยอะกว่า ทำให้มีผลค้างเขียงที่มากกว่าการฉีดแบบสัปดาห์ละครั้ง โดยทางทีมแพทย์ที่ Doctor Tony Clinic จะมีการสอนวิธีฉีดโดยส่วนมากคนไช้10 จาก 10 ที่มาใช้บริการจะบอกว่าไม่เจ็บเลย เพราะเรามีเทคนิคเฉพาะในการฉีดแบบไม่เจ็บ โดยจะเป็นเทคนิคในเรื่องของการวางองศาเข็มยังไง และการจับเนื้อที่ท้องบริเวณที่จะฉีดเข้าไปยังไงให้ไม่เจ็บ

ประโยชน์ของปากกาลดน้ำหนัก

  • ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ง่ายขึ้น
  • เป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย (GLP-1)
  • ช่วยให้อิ่มได้นานขึ้นช่วยลดนิยสัยการกินจุกจิก กินไม่เป็นเวลา
  • ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ช่วยในเรื่องของระบบความจำ
  • ทำให้ฟังก์ชั่นการทำงานของหัวใจดีขึ้น
  • ช่วยในเรื่องการทางเดินอาหาร เพราะเมื่ออาหารเคลื่อนที่ช้าลง เราก็จะอิ่มเร็วและนานขึ้นรวมไปถึงการทำงานของตับอ่อน
  • นอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ไม่เจ็บระหว่างฉีด
  • ไม่กลับมาอ้วน ไม่มีโยโย่เอฟเฟ๊กต์

ปากกาลดน้ำหนักเหมาะสมกับใครบ้าง

  • ผู้ที่ที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือ ดัชนีมวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30 คือมีภาวะน้ำหนักเกิน
  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่างๆเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักและต้องการตัวช่วย
  • ผู้ที่ต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
  • ผู้ที่ใช้วิธีอื่นแล้วไม่เห็นผล เช่น ยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • ผู้ที่ต้องการหาวิธีลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ไม่มีผลค้างเขียง ไม่กลับมาโยโย่

ปากกาลดน้ำหนักไม่เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ Liraglutide หรือมีประวัติการแพ้
  • โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์
  • โรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต ตับ ลำไส้และกระเพาะอาหาร
  • มีการใช้ยาเบาหวาน หรือยาที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด
  • อายุต่ำกว่า18ปี และอายุมากกว่า 75 ปี
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ และผู้ที่กำลังให้นม

ปากกาลดน้ำหนักปลอดภัยหรือไม่

ปากกาลดน้ำหนักได้รับการรับรองจาก (อ.ย) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาว่ามีความปลอดภัย สามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้ ภายใต้การดูแลของแพทย์*

ทำไมถึงควรซื้อปากกาลดน้ำหนักที่ Doctor Tony Clinic

  • ให้คำปรึกษาและดูแลโดยแพทย์ผู้มีมากประสบการณ์เท่านั้น
  • ด้วยเทคนิคเฉพาะของ Doctor Tony Clinic ช่วยให้ฉีดแล้วไม่เจ็บและไม่มีผลข้างเคียง
  • จัดเก็บอย่างถูกวิธีด้วยอุณภูมิที่เหมาะสม ทำให้ตัวยามีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ
  • น้ำหนักค่อยๆลดลงอย่างสุขภาพดี ไม่โทรม และไม่มีโยโย่เอฟเฟ๊กต์

ปากกาลดน้ำหนักคาดหวังให้น้ำหนักลดลงได้กี่กิโลกรัม

จริงๆการลดน้ำหนักขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะลดลงได้กี่กิโล ซึ่งการใช้ปากกาลดน้ำหนักควรใช้ภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์ โดยแพทย์ที่ Doctor Tony จะแนะนำให้เริ่มใช้ปริมาณที่น้อยก่อนจากนั้นเมื่อร่างกายคุ้นชินจึงค่อยๆเพิ่มขึ้น เพื่อให้การลดน้ำหนักลดอย่างยั่งยืน เพราะการที่โหมลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วหลายกิโลกรัมเพียงช่วงเวลสไม่นาน อาจทำเสี่ยงอาการโยโย่หรือการกลับมาอ้วนอีกครั้งหลังจากหยุดยาไป

ซึ่งที่ Doctor Tony Clinic ยังมีเทคนิคการฉีดแนะนำให้กับลูกค้าอีกมากมายเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในระยะยาว และเทคนิคการฉีดที่ไม่เจ็บ รวมถึงช่วงเวลาการฉีดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคนอีกด้วย

ข้อควรระวังในการใช้ปากกาลดน้ำหนัก

  • ปากกาลดน้ำหนักใช้ 1 คนต่อ 1 ด้ามเท่านั้น ห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่น
  • ห้ามใช้กับผู้ที่ตั้งครรภ์ วางแผนตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • การจัดเก็บปากกาลดน้ำหนักต้องควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดัน ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับตับและไตควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • อายุต่ำกว่า18ปี และอายุมากกว่า 75 ปี

ปากกาลดน้ำหนักมีวิธีการใช้อย่างไร?

  • แพทย์จะแนะนำวิธีการใช้และเทคนิคการใช้ให้กับลูกค้า
  • สามารถเลือกช่วงเวลาที่สะดวกในการฉีดได้ โดยควรจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันทุกวัน
  • ปริมาณยาที่ฉีด (dose) จะขึ้นกับแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้เป็นรายบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการลดน้ำหนักของลูกค้าโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

หมายเหตุ:

1: แพทย์จะแนะนำและปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการฉีดให้เป็นรายบุคคลเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าท่านั้นๆ ด้วยเทคนิคเฉพาะของ Doctor Tony Clinic

2: ควรใช้ปากกาลดน้ำหนักหากต้องการผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนควรใช้ต่อเนื่องประมาณ 3-4 เดือน)

อาการข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากใช้ปากกาลดน้ำหนัก

  • อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ในช่วงแรกๆหลังฉีดยา แต่จะเป็นอาการเพียวชั่วคราวเท่านั้นโดยท่านสามารถติดต่อทีมงานเพื่อขอคำปรึกษาจากแพทย์ได้โดยตรง

ข้อควรระวังในการใช้ปากกาลดน้ำหนัก

เนื่องจากปากกาลดน้ำหนักจะเข้าไปช่วยตับอ่อนในการควบคุมและลดน้ำตาล แต่ถ้ากินน้ำตาลเข้าไป ทำให้น้ำตาลสูงในเลือด เมื่อทานน้ำตาลเข้าไป จะทำให้รู้สึกไม่ดี หรืออาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย เพราะตับอ่อนพยายามตอบสนองในการจำกัดน้ำตาล ดังนั้นช่วงที่ใช้ปากกาลดน้ำหนักจะไม่แนะนำให้ทานอาหารหรือของหวานที่มีน้ำตาลสูงๆ ซึ่งการลดน้ำตาลก็เป็น Lifestyle ที่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะการลดน้ำหนักในระยะให้ยั่งยืนควรจะลดมาจากLifestyle ดังนั้นจะแนะนำให้เข้าคอร์สใช้ปากกาลดน้ำหนักในระยะสั้น หรือประมาณ 3 เดือนเพื่อปรับ Lifestyle ให้ทานอาหารน้อยลงโดยเฉพาะพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง โดยสามารถทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและทำ IF

ปากกาลดน้ำหนักซื้อที่ไหน

ปัจจุบัน ปากกาลดน้ำหนักสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นเพราะกำลังได้รับความนิยม โดยสามารถหาซื้อจากอินเตอร์เน็ตได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อ ปากกาลดน้ำหนักจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และที่สำคัญมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นผู้ให้คำปรึกษาและดูแลควบคุมรวมไปถึงการสอนเทคนิคการฉีดที่ถูกวิธีให้คือทางเลือกที่ดีที่สุด อีกทั้งการเลือกซื้อ ปากกาลดน้ำหนักจากแหล่งที่เชื่อถือได้ นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังช่วยให้ผู้ลดน้ำหนักได้ถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยอีกด้วย

การเก็บรักษาปากกาลดน้ำหนัก

  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ2-8องศาเซลเซียส

สาเหตุของอาการน้ำหนักเกินหรืออ้วน

ไลฟ์สไตล์การบริโภคของคนยุคใหม่ ด้วยความเร่งรีบและต้องแข่งกับเวลาซะเป็นส่วนใหญ่ทำให้พฤติกรรมการบรโภคเปลี่ยนไป จากเดิมที่ได้ทานอาหารครบ 5 หมู่ แต่เนื่องด้วยยุคสมัยที่เน้นความสะดวกสบายเป็นหลักทำให้รับประทานอาหารแป้งมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานและเป็นที่มาของการพึ่งพายาลดน้ำหนักนั่นเอง

ซึ่งการทานยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐานและเน้นเห็นผลที่รวดเร็วจนเกินไป สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ถึงขั้นเสียชีวิตกันเลยทีเดียว

โดยสาเหตุหลักของน้ำหนักตัวมากกว่าปกติมีดังนี้

1. ทานอาหารเร็วเกินไป

การที่รับประทานอาหารเร็วไปทำให้การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด และทำให้ทานอาหารเข้าไปในปริมาณที่มากเกินพอดี

ดังนั้นการที่เราเพิ่มเวลาในการเคี้ยง ค่อยๆให้กระเพาะได้รับรู้รสชาติและปริมาณอาหารที่เข้าร่างกาย จะทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นและทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม

2. ทานเกินพอดีเพราะเสียดายอาหารที่เหลือ

การทานอาหารเหลือหลังจากที่เราอิ่มแล้วเพราะความเสียดายเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เรามีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ โดยอาจจะส่งผลถึงระบบต่างๆในร่างกายอีกด้วย

3. การทานอาหาร หรือ ขนมคบเคี้ยวระหว่างนั่งดูทีวี

พฤติกรรมที่ชอบทานอาหารหรือขนมคบเคี้ยว น้ำอัดลม น้ำหวานต่างๆ ระหว่างดูทีวี

ทำให้เกิดสภาวะน้ำหนักมากกว่าปกติได้

4. ทานอาหารเพื่อคลายเครียด

ส่วนมากเมื่อเกิดภาวะเครียดหลายคนเลือกที่จะรับประทานอาหารเพื่อลดความตึงเครียด บางทีเราทานในปริมาณที่มากเกินไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินปกติเช่นกัน

5. ทานอาหารบุฟเฟ่ต์ เน้นความคุ้มค่า

เทรนด์บุฟเฟ่ต์ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนยุคนี้ โดยคนที่ไปทานบุฟเฟต์จะเน้นทานอาหารเพื่อความคุ้มค่ามากกว่าความพอดี ซึ่งเป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้เป็นสาเหตุของน้ำหนักที่มากกว่าปกติ

6. ทานอาหารช่วงดึก

การทานอาหารช่วงดึกนอกจากจะเป็นการรบกวนระบบการย่อยอาหารในร่างกายแล้วยังเป็นอีกนึงสาเหตุที่ทำให้เราน้ำหนักเกินมากกว่าปกติได้ เพราะอาหารที่เราทานไปช่วงดึกนอกจากจะไม่ได้รับการย่อยอย่างเหมาะสมเรายังไม่ได้มีกิจกรรมไปย่อยอาหารเหล่านั้นอีกด้วย

7. ทานอาหารแล้วไม่ออกกำลังกาย

เช่นเดียวที่ได้กล่าวไปในเบื้องต้นแล้ว หากทานอาหารแล้วไม่ได้นำไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ จะทำให้พลังงานเหลือคงค้างอยู่ในร่างกายและจะโดนแปรรูปไปเป็นไขมันส่วนเกินในที่สุด นำไปสู่ภาวะน้ำหนักตัวมากกว่าปกตินั่นเอง

ข้ออันตรายจากยาลดความอ้วน

1. ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ

ยาลดน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับการรับรองจาก อย มีโอกาสที่จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานผิดปกติส่งผลให้ไปกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้เต้นผิดจังหวะไปด้วย ทำให้หัวใจต้องทำงานมากกว่าปกติ ซึ่งอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

2. ความดันในเลือดสูง

ยาลดน้ำหนักเป็นสาเหตุให้ความดันในกระแสเลือดสูงขึ้นผิดปกติ เนื่องจากยาลดน้ำหนักทำให้เลือดเข้าไปสูลฉีดไม่เพียงพอ

3. นอนไม่หลับ กดประสาท

ยาลดน้ำหนักมีฤทธิ์ไปกดประสาท ทำให้ประสาทส่วนกลางสั่งให้ไม่อยากอาหาร โดยอาการข้างเคียงที่ตามมาคือ คอแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน จนไปถึงอาการประสามหลอนจนถึงเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

4. วิตกกังวล

ผลข้างเคียงอีกของยาลดน้ำหนักอีกหนึ่งอย่างคืออาการวิตกกังวล จนอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเอง

5. อาการท้องผูก

เป็นผลมาจากกฤทธิ์ยาลดความอ้วน เนื่องจากการขาดสารอาหารทำให้ร่างกายไม่มีสารอาหารที่จำเป็นเข้าไปในระบบขับถ่ายเป็นสาเหตุให้มีอาการท้องผูกได้

6. อาการคัดจมูก

โทษของยาลดน้ำหนักคือ อาการคัดจมูกเพราะหลอดเลือดที่เยื่อบุจมูกอักเสบขยายตัว

7. อาการดื้อยา

เมื่อทานยาลดน้ำหนักแล้วไม่ได้ผลก็ต้องเปลี่ยนยี่ห้อให้แรงขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นสาเหตุให้เกิดอาการดื้อยาและส่งผลเสียต่อร่างกายในที่สุด

8. ร่างกายโดยรวมย่ำแย่เสียสุขภาพ

เนื่องจากเมื่อระบบประสาทถูกกดทับนานๆ ระบบและอวัยวะต่างๆของร่างกายก็จะทำงานผิดปกติ ร่วมด้วยกับการที่ไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจย่ำแย่ลงเรื่อยๆ และอาจะถึงกับเสียชีวิตได้