เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังลดลง ส่งผลให้ผิวหน้ามีความหย่อนคล้อย ริ้วรอยเริ่มเห็นชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก คิ้ว หางตา และผิวหนังบริเวณคอ ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าของเราดูมีอายุ ดูโทรม และไม่สดใส การยกกระชับใบหน้าด้วยโปรแกรม Endotine Face Lift จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยข้อดีที่มีแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

โปรแกรม ดึงหน้า Endotine คืออะไร?

เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ใช้ในกระบวนการยกกระชับใบหน้า ซึ่งช่วยดึงเนื้อเยื่อผิวหนังให้ตึงขึ้นโดยไม่ต้องใช้ไหมเย็บแบบเดิม วัสดุที่ใช้ใน Endotine เป็นชนิดพิเศษที่ทำจาก PCL (Polycaprolactone) และ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) มีลักษณะเป็นหมุดขนาดเล็กจำนวน 5 ปุ่ม ถูกออกแบบมาให้กระจายแรงได้ดีช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงกระชับ โดยวัสดุจะยึดเกาะเนื้อเยื่อผิวในชั้น SMAS ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติในร่างกาย หลังจากการผ่าตัด วัสดุนี้จะช่วยให้เนื้อเยื่อผิวหนังตึงกระชับขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าเทคนิคการ ดึงหน้า ทั่วไป ซึ่งจะใช้การส่องกล้องที่มีความแม่นยำสูงในการผ่าตัด

ข้อดีของศัลยกรรมผ่าตัด ดึงหน้า Endotine

1. วัสดุได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัยสูง ดูแลโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง
2. แม่นยำ ด้วยเทคนิคการส่องกล้อง Endoscope ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำและปลอดภัยกว่าการดึงหน้าด้วยวิธีอื่น
3. ไม่มีสารตกค้าง สามารถย่อยสลายได้เอง และไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
4. แผลเล็กและฟื้นตัวเร็ว แผลขนาดเล็กและซ่อนในบริเวณไรผม ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น
5. ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
6. ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยกว่าการผ่าตัดแบบดึงหน้าทั่วไป

ศัลยกรรม ดึงหน้า Endotine ทำบริเวณไหนได้บ้าง?

1. หน้าผาก Forehead – ช่วยลดรอยย่นที่หน้าผากและกระชับคิ้วให้ยกขึ้น โดยการฝังวัสดุ Endotine ที่บริเวณไรผมเพื่อยกกระชับ
2. หางคิ้ว Transbleph – ช่วยยกหางตาและคิ้ว ทำให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ พร้อมยกกระชับหางตา
3. แก้มส้ม Mid Face – แก้ปัญหาต่าง ๆ บริเวณแก้มและมุมปาก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือมุมปากตก เหมาะสำหรับผู้ที่มีแก้มยุบหรือหย่อนคล้อย
4. กรอบหน้า Ribbon – ช่วยยกกระชับบริเวณคอและเหนียง ทำให้กรอบหน้าชัดเจนและลดปัญหาเหนียง

ศัลยกรรม ดึงหน้า Face Lift เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึก บริเวณหน้าผาก ที่เกิดจากวัย เห็นได้ แม้ไม่ได้แสดงสีหน้า
• ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก คิ้วตก ดูเศร้า รวมถึงมีริ้วรอย ร่องลึกบริเวณรอบดวงตา
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ อยากปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรม Face Lift

• งดอาหารและน้ำก่อนผ่าตัด 6-8 ชม.
• งดวิตามิน อาหารเสริม ที่มีผลต่อการบวมช้ำของแผล เช่น น้ำมันตับปลา, วิตามินเอ (Vitamin A), วิตามินอี (Vitamin E) อย่างน้อย 1 เดือน
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 วัน
• วันผ่าตัดควรสระผมให้เรียบร้อย และงดแต่งหน้า
• หากมีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบ

ขั้นตอนการทำศัลยกรรม Face Lift

1. ศัลยแพทย์จะทำการประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
2. หลังจากนั้นจะได้รับการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
3. ศัลยแพทย์จะเปิดแผลเล็ก ๆ ประมาณ 2-3 จุด เพื่อสอดกล้องเข้าไป
4. ใช้กล้องส่องตรวจเพื่อวางวัสดุ  ในตำแหน่งที่ต้องการยกกระชับ
5. เย็บแผลและปิดรอยแผลซ่อนให้เนียน

การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรม Face Lift

• หลังผ่าตัดอาจมีอาการบวม แพทย์จะให้ทานยาระงับอาการ และ สามารถประคบเย็นได้
• นอนหนุนศีรษะให้สูงในช่วง 2-3 วันแรกเพื่อลดอาการบวมและฟกช้ำ
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรง ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด และการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมาก
• ใช้เวลาพักฟื้น ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัลยกรรม Face Lift

• อยู่ได้นานไหม?

ผลลัพธ์ของการผ่าตัด  จะอยู่ได้นานประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน

• อันตรายหรือไม่?

เนื่องจากวัสดุที่ใช้สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติจึงมีความปลอดภัย

• เจ็บไหม?

ในระหว่างผ่าตัดจะใช้วิธีการดมยาสลบ ดังนั้นผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ ซึ่งหลังผ่าตัดอาจมีความรู้สึกตึงๆ บริเวณที่ผ่าตัด ซึ่งสามารถทานยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาอาการได้

• ใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน?

จะมีอาการบวมและรอยช้ำเล็กน้อยในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนใน 1-3 เดือน

โปรแกรม Face Lift เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า โดยได้ผลลัพธ์ยาวนาน มีแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และมีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยและต้องการความกระชับในระยะยาว โปรแกรมนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์