เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างผิวจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ผิวเสื่อม ชั้นไขมันยุบลง ชั้นกระดูกยุบตัว ผิวขาดการสร้างคอลลาเจน ทำให้โครงหน้าของเราดูหย่อนคล้อย จากที่หน้าเคย V Shape มีกรอบหน้า ผิวก็จะเริ่มหย่อนลง จนหน้ากลายเป็น U Shape ไม่มีสิ่งที่ช่วยพยุงโครงสร้างผิวของเราเอาไว้

Radiesse Plus เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรม สารฉีดสร้างโครงหน้า ที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ด้วยส่วนประกอบหลักอย่าง CaHA (Calcium Hydroxylapatite) แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ และมีส่วนประกอบของ Lidocaine หรือยาชา ที่ช่วยลดความเจ็บขณะทำได้อีกด้วย

 

โปรแกรม Radiesse Plus คืออะไร

Radiesse Plus คือ สารฉีดปรับกรอบหน้าให้คมชัด มีมิติ โดย พัฒนาจากรุ่น Radiesse Classic เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างผิวที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของชั้นผิวและชั้นไขมัน และชั้นกระดูกยุบตัวลง ทำให้เกิดการหย่อนคล้อย ของผิวหน้า

โปรแกรม Radiesse + จะตอบโจทย์ของปัญหาดังกล่าวนี้ให้ดีขึ้น ช่วยเรื่อง การยกกรอบหน้าคมชัด รวมไปถึงการยกกระชับใบหน้า ผลลัพธ์นานถึง 12-24 เดือน

โปรแกรม Radiesse + ช่วยเรื่องอะไร

ส่วนประกอบหลักของ Radiesse+ ประกอบด้วย CaHA microsphere Sodium carboxy-methylcellulose (CMC) gel และยาชา Lidocaine

ทำหน้าที่เข้าไปเติมเต็มใต้ชั้นผิวหนัง ให้เห็นผลทันที จาก CMC gel เมื่อ CMC gel สลายไป CaHA จะเริ่มทำงาน และจะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริงประมาณ 2-4 สัปดาห์ ด้วยการสร้างโครงหน้าด้วยกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย สร้างปริมาณความหนาแน่นของโครงสร้างผิวใหม่ขึ้นมา เกิดเป็นโครงหน้าที่คมชัดที่สร้างขึ้นมาจากร่างกายของเราเอง

ซึ่งตัวยาจะมีความหนืดสูง อยู่กับที่ ไม่เคลื่อนตัว และมียืดหยุ่นสูง สามารถลิฟท์กรอบหน้า ยกหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการสร้างเส้น Z line Lift & contour ลากตัดขอบที่ Cheek bone & Jawline สร้างมิติความคมชัดให้ใบหน้าดูมิติ หน้าพุ่ง เฉี่ยว มีเสน่ห์

ทำงานอย่างไร?

โปรแกรม Radiesse ต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์ คือ ไม่ใช่กรดไฮยาลูโรนิก แต่เป็น ไมโครสเฟียร์เจลแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) ที่ได้รับการรับรองเพื่อใช้ฉีดปรับแนวกราม กรอบหน้า ซึ่งหลังจากฉีด ผิวจะค่อย ๆ สร้างคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติในบริเวณที่ฉีด ช่วยให้เติมเต็มกรอบหน้าได้ทันที และยังได้ผลในระยะยาวจากการสร้างคอลลาเจน

อีกหนึ่งสิ่งของ Radiesse + ก็คือมีปริมาณ 1.5cc ต่างจากฟิลเลอร์ที่มีประมาณ 1 cc ซึ่งใน 1 ครั้ง สามารถฉีดรักษาบริเวณแนวกราม เพิ่มความคมชัดของกรอบหน้า ตั้งแต่แนวกรามไปจนถึงบริเวณขากรรไกร

จุดเด่น ยกกระชับ ให้โครงหน้าชัดทันที

• สร้างโครงหน้าใหม่ ให้ผลลัพธ์ที่สวย คม ชัด อยู่ได้ยาวนาน 2 ปี
• มียาชา Lidocaine ลดความเจ็บ ให้ความสบายขณะทำ
• ได้รับรองจาก อย. 3 หน่วยงาน US EU TH FDA แพทย์ทั่วโลกใช้มานานกว่า 9 ปี และเป็นยาฉีดตัวแรกที่ได้รับรอง US FDA ในเรื่อง Jawline Treatment

เหมาะกับใคร?

อายุ 20-30 ปี ต้องการสร้างโครงหน้าให้คมชัด มีมิติ

อายุ 31- 65 ปี มีปัญหาโครงสร้างหน้ายุบ ชั้นกระดูกและไขมันยุบ ใบหน้าหย่อนคล้อย อยากมีกรอบหน้าที่คมชัด

ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม Radiesse Plus

ผลลัพธ์หลังทำ จะเริ่มเห็นผล เกิดใน 3-4 สัปดาห์ เมื่อ CaHA กระตุ้นให้เกิดการสร้างองค์ประกอบโครงหน้า โดยคงผลลัพธ์นี้จะยาวนานสูงสุดถึง 2 ปี

ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถใช้หน้าต่อได้เลย

โปรแกรม Radiesse Plus ต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์อย่างไร

Radiesse+ จะมีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วยึดเกาะ อยู่กับที่ สร้างโครงได้ดี ฉีดได้บริเวณ Cheek bone และ Jawline ให้ผลลัพธ์หน้าคมชัด พุ่ง มีมิติ ใช้ปริมาณการฉีดที่น้อยกว่า และให้ผลลัพธ์ยาวนาน 2 ปี

ส่วนฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นต่ำกว่า สามารถไหลได้ เหมาะกับบริเวณที่ต้องการการปั้นรูปหน้า เลือกใช้ได้หลากหลายบริเวณ และอาจใช้จำนวนเยอะกว่า หากต้องการแก้ไขปัญหาให้กรอบหน้าคมชัด มีมิติ ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 1 ปี

Radiesse Plus ต่างจาก Radiesse (Classic) ยังไง

ส่วนประกอบ

Radiesse: Calcium Hydroxylapatite และ CMC gel

Radiesse+ : Calcium Hydroxylapatite , CMC gel ร่วมกับ Lidocaine + 0.3% (ยาชา) ให้ความเบาสบาย ลดความเจ็บขณะทำการรักษา

ผลลัพธ์

Radiesse : ช่วยยกกระชับผิวให้อิ่มฟู เนียนเด้ง ลดริ้วรอยใบหน้าระดับปานกลางถึงรุนแรง เช่น ริ้วรอย ระหว่างร่องแก้ม และมุมปาก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สามารถใช้เพิ่มความเต่งตึงให้กับมือและคอได้

Radiesse+ : ช่วยปรับโครงหน้า ให้กรอบหน้าคมชัด มีมิติ ตั้งแต่บริเวณโหนกกราม คาง และขากรรไกร

วิธีการรักษา

Radiesse : ฉีดลงในชั้นหนังแท้

Radiesse+ : สามารถฉีดในชั้นหนังลึก หรือชั้นใต้ผิว

Radiesse Plus เหมาะกับใคร

Radiesse : เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างคุณภาพงานผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ให้ผิวกระชับ อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์

Radiesse+ : เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า ให้มีกรอบหน้าคมชัด พุ่ง มีมิติ

การดูแลตัวเองหลังทำ

อาจมีอาการบวมได้เล็กน้อย อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการฉีดและจะหายเองภายใน 72 ชั่วโมง
อาจสัมผัสได้ถึงก้อน แต่จะลดลงหลังจากฉีดไปแล้ว 2-4 สัปดาห์
หลีกเลี่ยงการจับ ลูบ แตะผิวหน้าในบริเวณที่ฉีด
งดการแต่งหน้าหลังฉีด 12 ชั่วโมง
หากมีรอยช้ำ แนะนำให้ประคบเย็นในวันแรกจากนั้นจึงประคบอุ่น โดยสามารถทา หรือรับประทานยาที่ช่วยลดอาการช้ำได้
หากพบอาการผิดปกติอื่น ๆ ให้รีบพบแพทย์
radiesse plus+

คำถามที่พบบ่อย

• ข้อควรระวังสำหรับการฉีดโปรแกรม Radiesse+
• ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา มีแนวโน้มเกิดการอักเสบง่ายหรือในผู้ที่มีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์สูง
• ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
• ผู้ที่มีการอักเสบของผิวหนังหรือการติดเชื้อหรือใกล้บริเวณที่ทำการรักษา
• ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรสามารถทำได้หรือไม่
• ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ไม่สามารถฉีดได้
• RADIESSE+ ทำร่วมกับ RADIESSE classic ได้หรือไม่
• ขึ้นกับบริเวณที่ทำ หากคนละบริเวณ สามารถทำได้พร้อมกัน

Dr.Tony แพทย์กลุ่มแรกที่ได้เข้าร่วมเทรนโปรแกรม Radiesse+ กับ Dr.Luis Perez จากบราซิล

ใครที่มีปัญหาอยากสร้างกรอบหน้าที่คมชัด ด้วยผลลัพธ์ที่ยาวนาน และใช้จำนวนปริมาณที่ฉีดน้อย โปรแกรม Radiesse+ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ช่วยเติมเต็มความมั่นใจ ให้ใบหน้าของเรามีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ด้วยส่วนประกอบที่กระตุ้นการสร้างโครงข่ายผิวแบบธรรมชาติ ปลอดภัย