ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม Buccal Fat Removal

ศัลยกรรม ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม แก้ปัญหาแก้มเยอะ แก้มห้อย

หลายๆ คนที่มีปัญหาแก้มใหญ่ หน้าบาน จากการสะสมของไขมันบริเวณแก้ม มักเลือกฉีดแฟตเพื่อสลายไขมัน แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม คือ การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งเป็นการนำไขมันออกไปโดยถาวร

ศัลยกรรม ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม คืออะไร?

ไขมันกระพุ้งแก้ม เป็นก้อนไขมันที่ร่างกายมีอยู่แล้ว อยู่ลึกระหว่างกล้ามเนื้อกับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยว ซึ่งมีมากหรือน้อยแตกต่างกันไป การผ่าตัดกระพุ้งแก้ม เพื่อลดแก้ม จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหา และสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้นหลายๆคนที่มีปัญหาแก้มใหญ่ หน้าบาน จากการสะสมของไขมันบริเวณแก้ม มักเลือกฉีดแฟตเพื่อสลายไขมันแต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม คือ การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งเป็นการนำไขมันออกไปโดยถาวรไขมันกระพุ้งแก้ม เป็นก้อนไขมันที่ร่างกายมีอยู่แล้ว อยู่ลึกระหว่างกล้ามเนื้อกับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยว ซึ่งมีมากหรือน้อยแตกต่างกันไป การผ่าตัดกระพุ้งแก้ม เพื่อลดแก้ม จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหา และสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ข้อดี ของการตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

แก้ปัญหา แก้มป่อง แก้มยุ้ย แก้มเยอะ อย่างถาวรทำให้ขนาดแก้มลดลง

  • เห็นผลชัด เมื่อเทียบกับวิธีออกกำลังกายและคุมอาหารที่อาจไม่ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันที่กระพุ้งแก้มเยอะตามพันธุกรรมหรือโครงสร้างใบหน้าอยู่แล้ว
  • เป็นการตัดไขมันออกอย่างถาวร เพราะเป็นการผ่าตัดนำไขมันที่อยู่ในชั้นไขมันกระพุ้งแก้มออก ไม่ใช่ชั้นไขมันส่วนเกินใต้ผิว ซึ่งจะไม่กลับมาเกิดซ้ำหรือเกิดใหม่ได้น้อยมาก
  • ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยๆ ต่างจากวิธีดูดไขมันหรือฉีดสารสลายไขมันที่มักต้องกลับมาทำซ้ำอีกทุกๆ 1-3 เดือย
  • แผลผ่าตัดเล็ก ส่วนมากมีขนาดไม่ถึง 2 เซนติเมตร แผลในปาก ไม่เห็นเป็น ฟื้นตัวไวที่ Doctor Tony Clinic ดูแลโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง มีความชำนาญในโครงสร้างของใบหน้า เข้าใจปัญหาของคนไข้ได้เป็นอย่างดี
  • หลายๆคนที่มีปัญหาแก้มใหญ่ หน้าบาน จากการสะสมของไขมันบริเวณแก้ม มักเลือกฉีดแฟตเพื่อสลายไขมัน
  • แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม คือ การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งเป็นการนำไขมันออกไปโดยถาวร
  • ไขมันกระพุ้งแก้ม เป็นก้อนไขมันที่ร่างกายมีอยู่แล้ว อยู่ลึกระหว่างกล้ามเนื้อกับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยว ซึ่งมีมากหรือน้อยแตกต่างกันไป การผ่าตัดกระพุ้งแก้ม เพื่อลดแก้ม จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหา และสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
  • หลายๆคนที่มีปัญหาแก้มใหญ่ หน้าบาน จากการสะสมของไขมันบริเวณแก้ม มักเลือกฉีดแฟตเพื่อสลายไขมัน
  • แต่ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม คือ การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งเป็นการนำไขมันออกไปโดยถาวร
  • ไขมันกระพุ้งแก้ม เป็นก้อนไขมันที่ร่างกายมีอยู่แล้ว อยู่ลึกระหว่างกล้ามเนื้อกับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยว ซึ่งมีมากหรือน้อยแตกต่างกันไป การผ่าตัดกระพุ้งแก้ม เพื่อลดแก้ม จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ไขปัญหา และสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นของการตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

  • แก้ปัญหา แก้มป่อง แก้มยุ้ย แก้มเยอะ อย่างถาวร ทำให้ขนาดแก้มลดลงเห็นผลชัด เมื่อเทียบกับวิธีออกกำลังกายและคุมอาหารที่อาจไม่ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันที่กระพุ้งแก้มเยอะตามพันธุกรรมหรือโครงสร้างใบหน้าอยู่แล้ว
  • เป็นการตัดไขมันออกอย่างถาวร เพราะเป็นการผ่าตัดนำไขมันที่อยู่ในชั้นไขมันกระพุ้งแก้มออก ไม่ใช่ชั้นไขมันส่วนเกินใต้ผิว ซึ่งจะไม่กลับมาเกิดซ้ำหรือเกิดใหม่ได้น้อยมาก
  • ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยๆ ต่างจากวิธีดูดไขมันหรือฉีดสารสลายไขมันที่มักต้องกลับมาทำซ้ำอีกทุกๆ 1-3 เดือน
  • แผลผ่าตัดเล็ก ส่วนมากมีขนาดไม่ถึง 2 เซนติเมตร แผลในปาก ไม่เห็นเป็น ฟื้นตัวไว

วิธีดูแลตัวเองหลังทำ

1-3 วันแรก

ให้ประคบเย็นด้วยเจลประคบเย็น (โคลด์แพ็ค) และหลังจากวันที่ 3 ให้เปลี่ยนเป็นประคบอุ่นประมาณ 3 วัน โดยจุดประคบเย็นมีทั้งหมด 6 จุด ดังนี้

  • 1.1 เบ้าตา – ด้านซ้าย
  • 1.2 เบ้าตา – ด้านขวา
  • 1.3 หน้าแก้ม – ด้านซ้าย
  • 1.4 หน้าแก้ม – ด้านขวา
  • 1.5 ระหว่างคิ้ว

นอนยกหัวสูง

(ควรใช้หมอนรองคอช่วย) และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง 1 เดือนงดรับประทานของหมักดอง และอาหารที่มีรสจัด แนะนำให้ทานอาหารที่มีรสชาติอ่อน ในช่วง 1 เดือน

งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ 1 เดือน

  • ห้าม แคะ แกะ หรือเกา บริเวณจมูก หากรู้สึกคันให้ใช้คอตตอนบัด หรือสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบา ๆ และระวังอย่าให้จมูกได้รับการกระทบกระเทือน
  • ระวัง อย่าให้แผลโดนน้ำ ประมาณ 1 อาทิตย์
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หรือกีฬาประเภทที่ใช้แรงกระแทก เป็นเวลา 4 สัปดาห์
  • รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาลดบวม ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ และมาพบแพทย์ตามนัด
  • การทำแผลใช้คอตตอนบัดชุบน้ำเกลือเช็ดแผล และทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ วันละ 1-2 ครั้ง จนกว่าไหมจะหลุดหมด
  • สำหรับท่านที่ตัดกระพุ้งแก้ม กับการทำคาง แนะนำด้วยการบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า หลังทานอาหารทุกครั้ง
  • อาการหลังการศัลยกรรมที่ต้องเจอเป็นเรื่องปกติ
  • อาการบวมช้ำ อาจเกิดขึ้นได้ 2-3 วัน สามารถแก้ได้ด้วยการประคบเย็น 3 วัน หลังจากนั้นประคบอุ่นต่ออีก 3 วัน

อาการตึงรั้งบริเวณแผล

อาจรู้สึกตึงในช่วงแรกหลังจากผ่าตัด เนื่องจากแผลยังไม่เข้าที่ อาจต้องรอประมาณ 5-7 วัน อาการตึงจึงจะค่อย ๆ ลดลงอาการเจ็บผล ให้ทานยาแก้ปวด อาจมีอาการในช่วง 2-3 แวันแรก แต่เมื่อร่างกายเริ่มสร้างเนื้อเยื่อใหม่มารักษาแล้ว อาการเจ็บจะค่อย ๆ หายไป หรือหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เช่น

  • 1. แผลอักเสบ เช่น มีอาการเจ็บ ปวด แดง มีหนองไหล
  • 2. เลือดไหลไม่หยุด
  • 3. ความดันต่ำ หรือรู้สึกไม่มีแรง

อาหารหลังการศัลยกรรม 3 อย่างที่ห้ามทานเด็ดขาด!

อาหารรสเผ็ด หรือร้อน

เพราะอาจทำให้มีน้ำมูกไหล เสี่ยงติดเชื้อ เนื่องจากน้ำมูกเป็นสารคัดหลั่งที่มีเชื้อโรค

อาหารหมักดอง

จะทำให้แผลมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เช่น ส้มตำปลาร้า กุ้งแช่น้ำปลา หน่อไม้ดอง เป็นต้น

อาหารทะเล หรืออาหารที่มีรสเค็ม

เนื่องจากมีโซเดียมสูง จะทำให้ร่างกายบวมน้ำ แผลหายช้า และอาจติดเชื้อได้