เทคนิค ปลูกผม DHI คืออะไร? แตกต่างจาก FUE อย่างไร?

ปลูกผม DHI

ปัญหาผมบางและศีรษะล้านนับเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก การปลูกผมจึงได้รับการยอมรับในฐานะ ที่เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลอย่างถาวร ในบรรดาเทคนิคต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน การ ปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ให้ผลลัพธ์ตัวเส้นผม ที่มีความหนาแน่นและความเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ปลูกผมแบบ DHI คืออะไร?

การ ปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) เป็นเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงที่พัฒนาต่อยอดมาจากการ ปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) โดยมีจุดแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่การใช้เครื่องมือพิเศษ ซึ่งเรียกว่า “Implanter Pen” หรือปากกาปลูกผมโดยตรง

เทคนิคนี้อนุญาตให้แพทย์สามารถฝังรากผม (Graft) ลงบนหนังศีรษะได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องทำการเจาะรูล่วงหน้า (Pre-made Incisions) การทำงานแบบ Direct Implantation นี้ช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมมุมองศา ทิศทาง และความลึกของเส้นผมได้อย่างอิสระและแม่นยำ ส่งผลให้เส้นผมที่งอกใหม่มีการเรียงตัวที่สม่ำเสมอ ดูแน่น และเป็นธรรมชาติที่สุด

ความแตกต่างระหว่างเทคนิค ปลูกผม DHI และ FUE

ปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation)

หลังจากดึงหน่วยรากผมออกมาแล้ว จะถูกนำมาใส่ใน Implanter Pen และฝังลงบนหนังศีรษะได้ทันทีในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องเจาะรูไว้ล่วงหน้า เทคนิคนี้ช่วยลดระยะเวลาที่รากผมอยู่นอกร่างกาย (Out-of-body Time) และลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อได้มากกว่า

เทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)

จำเป็นต้องมีสองขั้นตอนที่แยกจากกัน

  1. ขั้นตอนแรก: แพทย์จะใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะเก็บรากผมออกมาจากหนังศีรษะด้านหลังทีละหน่วย (แต่ไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกเป็นแผ่น ทำให้ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นยาว)
  2. ขั้นตอนที่สอง: หลังจากได้รากผมมาแล้ว แพทย์จะทำการเจาะรูล่วงหน้าบนหนังศีรษะบริเวณที่ต้องการปลูก (Making Incisions) จากนั้นจึงใช้คีมคีบรากผมที่เตรียมไว้ไปใส่ในรูที่เจาะเตรียมไว้

ด้วยเหตุนี้ DHI จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการออกแบบแนวผมหน้า (Hairline Design) และการปลูกในบริเวณที่ต้องการความละเอียดอ่อน ในขณะที่ FUE ยังคงเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการปลูกผมในพื้นที่กว้าง

👉 อ่านเพิ่มเติม : เทคนิค ปลูกผม FUE และ FUT แตกต่างกันอย่างไร?

ปลูกผม DHI เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาหัวล้านเฉพาะจุด หรือผมบางบริเวณแนวผมหน้าและกลางศีรษะ
  • ผู้ที่ต้องการออกแบบแนวผมใหม่ให้ได้มุมและทิศทางที่สมจริงและเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่เคยปลูกผมมาแล้วและต้องการเติมเต็มความหนาแน่นให้มากขึ้น
  • ผู้ที่มีหนังศีรษะค่อนข้างตึง และต้องการเทคนิคที่สร้างแผลขนาดเล็กที่สุด
  • ผู้ป่วยหญิงที่มีปัญหาผมบางและต้องการผลลัพธ์ที่ดูเนียน

ข้อได้เปรียบหลักของเทคนิค DHI

  1. มีความเป็นธรรมชาติสูง: การควบคุมมุมการปลูกได้อย่างอิสระช่วยให้เส้นผมงอกในทิศทางเดียวกับเส้นผมเดิม
  2. อัตราการรอดของรากผมสูง: กระบวนการที่รวดเร็วและลดการบาดเจ็บต่อรากผม ส่งผลให้รากผมมีสุขภาพดี และมีอัตราการอยู่รอดมากกว่า 90%
  3. แผลมีขนาดเล็กมาก ฟื้นตัวเร็ว: เนื่องจากไม่ต้องสร้างแผลขนาดใหญ่ เป็นเพียงแผลจากเข็ม Implanter เท่านั้น ทำให้อาการบวมน้อยลงและฟื้นตัวได้เร็ว
  4. มีความหนาแน่นสูง: สามารถปลูกเส้นผมในระยะที่ใกล้กันได้มากกว่า ทำให้ได้ความหนาแน่นที่ดีกว่า

ขั้นตอนการ ปลูกผมแบบ DHI ที่ Doctor Tony Clinic

  1. ปรึกษาและออกแบบแนวผม แพทย์ทำการวิเคราะห์สภาพหนังศีรษะและสาเหตุของปัญหาผม จากนั้นเราจะร่วมกันออกแบบแนวผมใหม่ร่วมกัน
  2. ทำการโกนผมบริเวณท้ายทอยให้สั้นในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนเริ่มกระบวนการเราจะให้ยาชาเฉพาะที่ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ
  3. เก็บรากผม แพทย์จะใช้เครื่องมือขนาดเล็กพิเศษ เจาะเก็บรากผมจากบริเวณท้ายทอยของคุณทีละหน่วย เพื่อให้รากผมที่ได้มีคุณภาพดีที่สุด
  4. คัดแยกและเตรียมรากผม รากผมที่เก็บมาได้จะถูกคัดแยกอย่างพิถีพิถัน และเก็บรักษาในสารละลายพิเศษที่ช่วยให้รากผมแข็งแรง พร้อมสำหรับการปลูก
  5. ปลูกผมด้วยปากกาพิเศษ (Implanter Pen) แพทย์จะใช้ปากกา Implanter ปลูกผมลงบนหนังศีรษะของคุณโดยตรง ควบคุมมุมและทิศทางได้อย่างอิสระ ทำให้ผมที่ได้ดกสวย เรียงตัวเป็นธรรมชาติ

การเตรียมตัวก่อนการปลูกผม

  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ
  • งดรับประทานยา หรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด (เช่น แอสไพริน, วิตามิน E) หลังจากปรึกษาแพทย์แล้ว
  • ในวันทำหัตถการ ควรสระผมให้สะอาดและสวมเสื้อผ้าที่สะดวกสบาย

ข้อควรปฏิบัติหลังการปลูกผม

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 48-72 ชั่วโมงแรก
  • นอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม
  • งดกิจกรรมหนักและการออกกำลังกายเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการเกาหรือเสียดสีบริเวณที่ปลูกผม
  • มาพบแพทย์ตามนัดหมายทั้งหมดเพื่อติดตามผลการรักษา

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

การปลูกผมแบบ DHI เป็นหัตถการที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี อาจมีผลข้างเคียงชั่วคราวได้แก่ อาการบวมเล็กน้อย รอยแดง หรือการเกิดสะเก็ดบนหนังศีรษะ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปภายในไม่กี่วันถึงสัปดาห์ ในบางรายอาจเกิด “Shock Loss” หรือผมร่วงหลังปลูกซึ่งเป็นภาวะชั่วคราว และเส้นผมจะเริ่มงอกใหม่ภายใน 3-4 เดือน

ปลูกผม DHI ราคาเท่าไหร่?

ราคาการปลูกผมแบบ DHI ที่ Doctor Tony Clinic คำนวณจากจำนวนกราฟต์ที่ใช้ปลูก โดยมีราคาอยู่ที่ กราฟต์ละ 30 – 50 บาท ราคาสุทธิจะทราบหลังแพทย์ประเมินจำนวนกราฟต์ที่ต้องการใช้อย่างแม่นยำ

สรุป

การปลูกผมเทคนิค DHI นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการการรักษาผมร่วง ด้วยความแม่นยำและผลลัพธ์ทางธรรมชาติที่ดีกว่า Doctor Tony Clinic พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้มีที่มีประสบการณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อผลลัพธ์การปลูกผมที่ปลอดภัย เป็นธรรมชาติ และตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล

Doctor Tony Clinic
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.