ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เรียบเนียน ละมุน ดูอ่อนกว่าวัย

ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม คือ รอยพับลึก จากด้านใดด้านหนึ่งของจมูกไปทางมุมปาก เรียกอีกอย่างว่า “ร่องข้างแก้ม“ เป็นจุดที่บ่งบอกถึงอายุได้อย่างชัดเจน มักจะเห็นได้ชัดในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย ซึ่งทางออกของปัญหาคือการเติม ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อเพิ่มปริมาตรของผิวให้ดูเรียบเนียน เต่งตึงไร้ริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูสดใส

การรักษาริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม ด้วยฟิลเลอร์ FILLER

รอยที่ร่องแก้มนี้จะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเกิดได้จากสาเหตุหลักที่ได้กล่าวมาในข้างต้น เนื่องจากไขมันจะหายไปจากแก้ม ทำให้ปริมาตรของผิวหนังลดลงและทำให้รอยนี้ลึกขึ้น การยิ้มซ้ำ ๆ หรือ “ยิ้มกว้าง” อาจส่งผลให้เกิดรอยลึกถาวรในบริเวณนี้ ริ้วรอยบริเวณร่องแก้มที่ลึกสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดสารฟิลเลอร์ผิวหนังเข้าไปในบริเวณรอบๆ เพื่อเต็มเติมให้ผิวดูเรียบเนียนและเต่งตึงไร้ริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากช่วยเติมเต็มแล้วยังช่วยยกมุมปากให้สูงขึ้นอีกด้วย

สารเหตุของการเกิดร่องแก้ม

สาเหตุของการเกิดร่องแก้ม

อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

  • ผิวหนังที่หย่อนคล้อยและการสลายตัวของไขมันบนใบหน้า (Fat pad) พอมีการหย่อนตัวลง จะทำให้มองเห็นเป็นก้อนๆ เหนือเส้นร่องแก้ม
  • เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตาและร่องแก้ม ทำให้ก้อนที่อยู่เหนือเส้นร่องแก้มดูชัด ดูลึกขึ้น มักพบในคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
  • การยิ้มบ่อยๆก็ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดร่อง เพราะเวลายิ้มกล้ามเนื้อจะดึงร่องแก้มให้แข็งแรงเกินไป
ใครควรฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ร่องแก้มลึก ที่มีสาเหตุมาจากวัยที่เพิ่มมากขึ้น
  • ผู้ที่รูปร่างผอม ซึ่งจะมีริ้วรอยบริเวณร่องแก้มที่เด่นชัด
  • ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ ทำให้ดูแก่กว่าวัย

ข้อดีของการฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

  • การเติมหรือฉีดฟิลเลอร์ Filler ที่ร่องแก้มเป็นวิธีแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เห็นผลชัดเจนกว่าการร้อยไหม
  • เห็นผลทันทีหลังฉีด และเห็นผล 100% หลังฉีดประมาณ 4-5 วัน
  • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่เห็นรอยเขียวช้ำ ไม่มีอาการบวมให้ใครจับได้
  • ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ FILLER ร่องแก้ม
  • ร่องแก้มที่เคยเป็นร่องลึกจะตื้น เรียบเนียน เต่งตึงไร้ริ้วรอย
  • ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เด็กลงอย่างเห็นได้ชัด
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-1.5 ปี (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
  • ฟิลเลอร์สามารถสลายตัวไปตามธรรมชาติโดยไม่เป็นอันตราย

การเตรียมตัวและการดูแลหลังการฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์ ควรหยุดกินวิตามินอี น้ำมันปลา คอลลาเจน สารสกัดแปะก๊วย (กิงโกะ) ยาลดการแข็งตัวของเลือด และยาแก้ปวดบางชนิด (แอสไพรินและยาในกลุ่ม NSAIDs) เนื่องจากอาหารเสริมและยาเหล่านี้ทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก อาจทำให้มีรอยเขียวช้ำจากอาการเลือดออกใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้หากมีโรคประจำตัว เคยมีประวัติแพ้ยาหรืออาหารเสริม กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในระยะให้นมบุตร ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดเช่นเดียวกัน

รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 8

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม Filler เจ็บหรือไม่ ?

  • เราสามารถใช้ยาชาเฉพาะจุด หรือประคบน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บ ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่มักบอกว่าเจ็บเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเจ็บเลยระหว่างการรักษา

ใช้เวลาในการรักษานานเท่าไหร่ ?

  • ระยะเวลาในการรักษาแบบคร่าวๆ จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในกรณีนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์

ขั้นตอนการรักษา ?

  • คุณหมอจะประเมินและให้คำแนะนำก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง หลังจากนั้นแปะยาชาก่อนฉีดและทำการฉีดในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งหลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่มีรอยแผลเป็นหรือรอยเชียวช้ำใดๆ

ผลลัพธ์จะยังคงอยู่นานแค่ไหน?

  • ผลการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์จะยังคงปรากฏให้เห็นเป็นเวลา 6 ถึง 18 เดือน

อายุเท่าไหร่ถึงจะสามารถฉีด Filler ?

  • แนะนำสำหรับคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 11
รีวิวฟิลเลอร์ร่องแก้ม 10

ทำไมต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์ Filler ร่องแก้ม ที่ Dr.Tony Clinic

  • ใช้ผลิตภัณฑ์แท้จาก Allergan ทั้งโบ และฟิลเลอร์
  • ใช้เครื่องส่องเส้นเลือด มั่นใจไม่มีรอยเขียวช้ำให้ใครจับได้
  • ฉีดโดยแพทย์ผู้เป็น Allergan Medical Institute Trainer ประจำประเทศไทยมายาวนาน

คำถามที่พบบ่อย

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บหรือไม่?

ระหว่างการรักษา แพทย์จะทายาชาแบบทาลงบนผิวก่อนฉีด เพื่อลดความรู้สึกไม่สบายตัว นอกจากนี้ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังผสมยาชา (Lidocaine) อยู่ภายใน ซึ่งจะค่อยๆ ออกฤทธิ์หลังฉีด ทำให้ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่รายงานว่า เจ็บเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่เจ็บเลย อาจรู้สึกเพียงเสียวบวมๆ ตึงๆ ชั่วคราวเท่านั้น

จะเห็นผลการเติมเต็มทันทีหลังฉีด แต่ในช่วง 2-4 วันแรก อาจยังมีอาการบวมเล็กน้อยอยู่ ดังนั้นผลลัพธ์สุดท้ายที่เรียบเนียนและเป็นธรรมชาติที่สุด จะเห็นได้ชัดเจนหลังจากการบวมยุบลงหมดแล้ว ซึ่งมักจะอยู่ที่ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังการรักษา

ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้ ประมาณ 1 ถึง 1.5 ปี อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจยาวนานหรือสั้นลงได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

  • ประเภทและคุณภาพของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นสูงมักจะคงทนกว่า
  • อัตราการเผาผลาญของร่างกาย: คนที่เมตาบอลิซึมเร็ว ฟิลเลอร์อาจสลายตัวได้เร็วกว่า
  • การดูแลตัวเอง: การดูแลผิวพรรณและการใช้ชีวิตมีผลต่อความคงทนของฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้บ้างและเป็นชั่วคราว มีดังนี้

  • ผลข้างเคียงทั่วไป (พบได้บ่อย): อาการบวม แดง และอาจมีรอยช้ำเล็กน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปภายใน ประมาณ 3-7 วัน
  • ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย: อาจคลำพบก้อนนุ่มๆ ในเบื้องต้น ซึ่งมักจะหายไปได้เอง หรือสามารถนัดแพทย์เพื่อปรับแต่งได้หากไม่สลาย
    การประคบเย็นหลังฉีดสามารถช่วยลดการบวมและรอยช้ำได้

6. ควรเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนสำหรับร่องแก้ม?

ฟิลเลอร์สำหรับร่องแก้มควรเป็นประเภทที่ให้ความรองรับได้ดี (Supportive Filler) และมีคุณสมบัติในการยกกระชับ แบรนด์ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสม ได้แก่

  • Juvederm Voluma
  • Restylane Lyft (หรือ Perlane)

ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำทันทีที่ฟิลเลอร์สลายตัวหมด สามารถฉีดได้เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าผลลัพธ์เริ่มลดลงหรือร่องแก้มเริ่มเห็นชัดอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ระยะเวลา 1-2 ปี ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์และการดูแลของแต่ละคน