การ ฉีดโบ หรือ Toxin ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั้นเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมแรก ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในแวดวงความงาม โดยจะเน้นไปที่เรื่องของการลดริ้วรอย เพิ่มความเรียวให้ใบหน้า รวมไปถึงเรียวขา เพิ่มความกระชับให้ผิว ซึ่งเราสามารถฉีดได้แทบจะทั่วทั้งร่างกายเลยก็ว่าได้ หลายคนฉีดโบที่หน้าแล้วเกิดอาการหนังตาตก มันเกิดมาจากสาเหตุอะไรเรามาดูข้อเท็จจริงกัน
หนังตาตก หลัง ฉีดโบ สาเหตุและวิธีแก้ไข
Toxin หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ Botulinum toxin type A เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Clostridium botulinum มีฤทธิ์ต่อการทำงานของระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามแขน กล้ามขา และน่องลดขนาดลงได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยด้วย สาว ๆ หลายคนจึงนิยมไปฉีดโบกันมาก เพราะเห็นผลได้จริง และไม่เป็นแผลหรือริ้วรอยหลังทำ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่เริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้า ก็จะเลือกไปฉีด Toxin กัน แต่บางครั้งเมื่อฉีดแล้วอาจเกิดผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และได้อาการหนังตาตกตามมาได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ
- แพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ: การฉีดโบต้องใช้แพทย์เฉพาะทางและมีความชำนาญในการฉีด เพราะต้องฉีดให้ตรงตำแหน่งของมัดกล้ามเนื้อ หากแพทย์ใช้ยาที่มีปริมาณมากเกินไป หรือดันยาแรงเกินไปก็อาจส่งผลให้ยาเข้าสู่ร่างกายเกินจากปริมาณที่กำหนด ส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ไปยังอวัยวะ หรือพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงได้ โดยเฉพาะการฉีดโบท็อกที่บริเวณหว่างคิ้ว
- การใช้โบท็อกปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน: โบท็อกมีอยู่มากมายในท้องตลาด หากโชคร้ายไปเจอของปลอม หรือของผสมน้ำเกลือที่มากเกินไปเข้าก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โบท็อกคุณภาพดีจะมีการกระจายตัวไม่กว้างมาก ทำให้สามารถควบคุมปริมาณในระหว่างที่ฉีดได้ แต่ถ้าเป็นของปลอมจะมีการกระจายตัวกว้าง และควบคุมปริมาณได้ยาก
- คนไข้ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังฉีด: ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหลังฉีดแล้ว เราต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากเผลอเอามือไปนวดหรือคลึงบริเวณที่ฉีดโบก็อาจทำให้โบท็อกที่ฉีดเข้าไปนั้นกระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้ หากโดนกล้ามเนื้อบริเวณตาก็อาจทำให้เกิดอาการหนังตาตกได้นั่นเอง
วิธีแก้ไขเมื่อเกิดอาการหนังตาตกหลัง ฉีดโบ
โดยปกติแล้ว อาการหนังตาตกหลังจากฉีดโบท็อกถือเป็นอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่มันจะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ถ้าใช้โบท็อกของแท้มันจะสลายไปเองในระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน จากนั้นหนังตาจะเริ่มกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เราไม่ควรปล่อยอาการนี้เอาไว้นานเกินไป หากพบว่าเกิดอาการปุ๊บ ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะถ้าทิ้งไว้นาน อาการอาจยิ่งแย่ลง แพทย์อาจใช้การบรรเทาอาการโดยการใช้ยาหยอดตาเพื่อเพิ่มการทำงานของเปลือกตา ถ้าอยากให้โบท็อกสลายตัวเร็วขึ้น ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดให้เข้าอบซาวน่า หรือทำทรีทเมนท์ที่ใช้ความร้อนจะช่วยให้สลายเร็วขึ้น แต่ถ้าอาการนั้นยังไม่หายไป แต่มีการอักเสบมากขึ้น แสดงว่าโบท็อกนั้นเป็นของปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ควรหยุดฉีดอย่างน้อย 1 ปี หรือจนกว่าโบท็อกเดิมที่ฉีดนั้นจะสลายตัวไปหมด แล้วค่อยฉีดใหม่ในคลินิกที่มีมาตรฐาน และไว้ใจได้
ฉีดโบ แล้วเกิดอาการดื้อโบ
เมื่อฉีดโบท็อกไปนาน ๆ บางคนอาจเกิดอาการดื้อโบ โดยอาการนี้จะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ฉีดโบท็อกปริมาณเท่าเดิม แต่ผลที่ได้ไม่เหมือนเดิม ฉีดปริมาณเท่าเดิม แต่ไม่เห็นผล ต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้น และฉีดปริมาณเพิ่มมากขึ้นก็ยังไม่เห็นผล ทั้งนี้อาจเป็นเพราะ
ตัวยาที่ฉีดอาจเป็นของปลอม หรือเสื่อมคุณภาพ
ฉีดบ่อยเกินไป อย่างน้อยควรเว้นระยะห่าง 3 เดือนก่อนจะฉีดครั้งต่อไป แต่ไม่ควรเว้นเกิน 5-6 เดือน เพราะอาจต้องใช้ยาในปริมาณมากขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อกลับมาทำงานเป็นปกติแล้ว
ฉีดมากเกินไป ปริมาณที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 300 ยูนิต/ครั้ง การฉีดมากเกินไปอาจเกิดภาวะสารตกค้างได้
การฉีดโบได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้มีโบท็อกเสื่อมคุณภาพมาปลอมปนอยู่มากมาย หากฉีดแล้วเกิดอาการหนังตาตกก็ไม่ต้องตกใจไป เพียงรอให้ยาสลายหนังตา ก็จะกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม แต่หากเป็นมากขึ้นหรือเกิดอาการอื่นแทรกซ้อน ให้รีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อรักษาอาการต่อไป ทั้งนี้ ถ้าไม่อยากให้เกิดอาการอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ควรเลือกแพย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือ คลินิกที่ได้รับใบอนุญาต ผ่านมาตรฐานต่างๆ หรือ ดูผลลัพธ์การรักษา ที่หลากหลาย