ขูดสารเหลว ขูดออกหมดไหม? ทำไมถึงต้องขูดออก?

ทุกวันนี้นวัตกรรมเกี่ยวกับความงามมีความทันสมัยมากขึ้น การทำหัตถการก็มีให้เลือกหลากหลายวิธีมากขึ้น แต่บางครั้งการรับบริการหัตถการโดยเฉพาะการฉีดสารเหลวเข้าร่างกายนั้นอาจเกิดปัญหาต่อร่างกายได้ หลายคนเข้ารับการฉีดของเหลวแล้วมีผลข้างเคียง วิธีการที่แพทย์ใช้ทำการรักษาก็คือ การ ขูดสารเหลว วิธีนี้เป็นวิธีการแก้ปัญหาของเหลวที่ฉีดผิดรูป โดยการผ่าตัด รวมไปถึงอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น วันนี้เราไปทำความรู้จักการขูดสารเหลวกัน

การขูดสารเหลว…แนวทางแก้ปัญหาเมื่อเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดสารเหลว ขูดสารเหลว คืออะไร?

การขูดสารเหลวเป็นการผ่าตัดเลาะเอาสารแปลกปลอมที่ฉีดเข้าไปในร่างกายออก เนื่องจากบริเวณนั้นฉีดแล้วอาจเกินการผิดรูป หรือติดเชื้อเกิดการอักเสบ ขนาดของแผลจากการผ่าตัดนั้นจะขึ้นอยู่กับอาการของผู้ที่เกิดปัญหา จุดที่นิยมเข้ารับการขูดสารเหลวสามารถทำได้หลายจุด เช่น หน้าผาก เปลือกตา จมูก ปาก และคาง ส่วนสาเหตุที่ต้องขูดสารเหลวก็เป็นเพราะว่าอาจเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดส่งผลให้บริเวณดังกล่าวนั้นเกิดการอักเสบ หรือผิดรูป เกิดเป็นพังผืดขึ้นมา สารเหลวที่ฉีดเข้าไปนั้นส่วนใหญ่ได้แก่ ซิลิโคนเหลวที่เมื่อฉีดเข้าไปแล้วในระยะแรกจะเห็นผลทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไปซิลิโคนเหลวนี้จะทำปฏิกิริยากับเซลล์ในร่างกาย ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นหย่อน ย้อย หรือตึงเกินไปนอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดผิวขรุขระเพราะการไหลย้อนกลับของซิลิโคน และที่สำคัญซิลิโคนนี้ไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติเหมือนกับ ฟิลเลอร์ การแก้ปัญหาจึงต้องใช้วิธีการผ่าตัดออกเท่านั้น

ขูดสารเหลวเป็นอันตรายหรือไม่?

จริง ๆ แล้วการขูดสารเหลวไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับอาการในเบื้องต้นของแต่ละบุคคลด้วย ดังนั้น ควรพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและช่วยประเมินวิธีการรักษาเพื่อความปลอดภัย
สารเหลวขูดออกหมดไหม? ทำไมถึงต้องขูดออก?: สารเหลวก็คือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย อาจเป็นสารสังเคราะห์ที่เสื่อมสภาพ หรือไม่ได้มาตรฐาน เช่น พาราฟิน ไขมันเทียม ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไบโอพลาสติก ซึ่งเมื่อฉีดแล้วอาจมีผลข้างเคียง เช่น มีก้อนเนื้อเกิดขึ้นมา อวัยวะผิดรูป หรือเกิดพังผืด อาการเหล่านี้สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการขูดสารเหลวออกได้ แต่วิธีการนี้ไม่สามารถนำออกมาได้ทั้งหมด ทำได้เพียงแค่ 60-70% เท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจและไม่เกิดอันตราย

ขั้นตอนการขูดสารเหลว

• การขูดสารเหลวเป็นการผ่าตัดอย่างหนึ่งที่มีความซับซ้อน จึงต้องใช้ความระมัดระวัง และความชำนาญเป็นพิเศษ
• แพทย์ที่ทำการผ่าตัดต้องมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะจุด โดยแพทย์จะเลาะเนื้อของสารส่วนเกินที่ถูกฉีดเข้าไปในจุดต่าง ๆ ออก โดยไม่ได้กระทบกระเทือนกับเส้นเลือด เนื้อเยื่อ และเส้นประสาท
• ระยะเวลาในการผ่าตัดขึ้นอยู่กับความยาก-ง่าย แต่โดยส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ในบางกรณีเมื่อเลาะสารส่วนเกินออก อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการหย่อนคล้อย แพทย์จึงต้องตกแต่งแก้ไขอีกครั้งในภายหลังด้วย

หลัง ขูดสารเหลว แล้วควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

หลังเข้ารับการผ่าตัด 2-3วันแรกนั้นอาจเกิดอาการบวมช้ำ ให้ใช้การประคบเย็นบริเวณที่บวม อาการนี้จะเริ่มหายไปภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่าจับหรือเกาบริเวณที่ขูดสารเหลว ทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ ห้ามให้แผลผ่าตัดถูกน้ำ งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 เดือนหลังเข้ารับการขูดสารเหลว และที่สำคัญเข้าพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ห้ามขาดเด็ดขาด

เทคนิคการเลือกสถานพยาบาลเพื่อ ขูดสารเหลว

• เลือกสถานพยาบาลที่ถูกกฎหมาย ได้มาตรฐาน สถานพยาบาลต้องมีเลขที่ใบประกอบกิจการสถานพยาบาลระบุไว้อย่างชัดเจน โดยมีภาพถ่าย ชื่อ และเลขที่ใบอนุญาตของเจ้าของกิจการติดให้มองเห็นอย่างชัดเจน นอกจากนี้สถานพยาบาลต้องมีความสะอาด ปลอดภัย มีความพร้อมทางด้านบุคลากร และเครื่องมือที่ทันสมัย
• ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดต้องมีใบประกอบโรคศิลป์ ไม่ใช่หมอเถื่อน และต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการขูดสารเหลว ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของแพทยสภา การเลือกแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือไม่มีความชำนาญอาจแก้ไขผิดวิธี และอาจทำให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้น
• ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ สามารถดูได้จากรีวิวของผู้ใช้บริการในแต่ละสถานพยาบาลว่าเป็นอย่างไร เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจเลือก
  ต้องเดินทางสะดวก มีที่จอดรถ สามารถนัดหมายคิวล่วงหน้าได้
  ต้องติดต่อได้ง่าย หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ หรือช่องทางโซเชียลต่าง ๆ เพื่อติดต่อในยามเกิดปัญหา

การขูดสารเหลวเป็นวิธีการแก้ปัญหาฟิลเลอร์ไหลย้อย อันเกิดจากการฉีดสารเหลว หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณภาพแล้วไม่สามารถสลายไปได้เอง ทำให้เกิดเป็นเนื้อตายหรือพังผืด ผิวมีลักษณะเป็นก้อน นูน แข็ง บวม ย้อย ซึ่งใครที่เกิดอาการเหล่านี้หลังฉีด ให้ติดต่อพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการเพื่อความปลอดภัย