ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ควรเลือกทรงไหนดี อัปเดต 2025

ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม

เมื่อพูดถึงฟิลเลอร์แล้ว เชื่อแน่ว่าทุกคนต่างก็เคยได้ยิน แล้วก็รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่อาจจะยังไม่ค่อยแน่ใจนักว่า เมื่อฉีดแล้วจะเป็นอย่างไร และเกิดผลอะไรตามมา และที่สำคัญหลายคนต่างก็ตั้งข้อสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ทำแล้วจะอักเสบเหมือนการศัลยกรรมอื่น ๆ หรือไม่ อีกทั้งควรเลือกทรงปากไหนดีในปี 2025 วันนี้เราไปหาคำตอบกันดีกว่า

ไขข้อข้องใจฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม

ปากเป็นอวัยวะสำคัญที่มีเส้นเลือดอยู่มาก โดยเฉพาะบริเวณรอบปาก จึงทำให้เลือดออกได้ง่ายมากหากมีอะไรไปกระทบกระเทือน การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ปากจะเริ่มต้นจากการใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อน โดยหมอจะฉีดยาชาที่ริมฝีปากเพื่อไม่ให้รู้สึกถึงบริเวณเส้นประสาทที่อยู่รอบบริเวณปาก อาจจะรู้สึกเจ็บตอนที่ฉีดยาชาเพียงเล็กน้อย จากนั้นเมื่อหมอเริ่มฉีดฟิลเลอร์ เราจะไม่รู้สึกว่าแสบหรือเจ็บเลย แต่ถ้าคลินิกไหนที่ไม่ได้ฉีดยาชาอาจเพราะในตัวของฟิลเลอร์บางยี่ห้อมีส่วนผสมของยาชาอยู่แล้ว ก็อาจจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้างเล็กน้อย แต่เมื่อตัวยาชาซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว ความรู้สึกเจ็บแสบจะค่อย ๆ หายไป แล้วหลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม หลังจากหัตถการวิธีนี้เราจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่บริเวณที่ฉีดจะเกิดอาการบวม แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หากพ้นระยะเวลานี้แล้ว หากอาการบวมยังไม่หายไป ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยทันที อันตรายจากการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ปากอาจเกิดขึ้นได้หากเลือกใช้บริการที่ผิด เช่น ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือเสื่อมคุณภาพ ใช้แพทย์ปลอมหรือผู้ไม่รู้จริง ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะริมฝีปากเป็นอวัยวะที่บอบบางที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการทำหัตถการเป็นอย่างมาก

ทรงปากยอดฮิตอินเทรนด์อัปเดต 2025

Golden Ratio: ปากทรงสัดส่วนทองคำ

เอ๊ะ! คืออะไรกันนะ สัดส่วนทองคำที่ว่านี้ คือ สัดส่วนของปากบนต่อปากล่างอยู่ที่ 1:1.618 ซึ่งเป็นทฤษฎีคณิตศาสตร์ที่คิดค้นโดยลีโอนาโด ฟีโบนัชชี นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี ที่ใช้ตัวเลขบรรยายความงาม ซึ่งสัดส่วนนี้เองได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั้งการออกแบบภาพกราฟิก ภาพวาดศิลปะ และแวดวงศัลยกรรม และได้ชื่อว่าเป็นสัดส่วนของปากที่สวยที่สุด

Classic Lip: ปากทรงคลาสสิค

ทรงปากรูปแบบนี้จะเน้นความอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ มีสันปากเล็กน้อย โดยสัดส่วนของปากบนและล่างจะอยู่ที่ 1:1.6 หรือ 1:1.7 ปากจะมีวอลลุ่มพอประมาณ สามารถใช้ได้กับทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่เสียเนื้อปากไปเนื่องจากอายุที่มากขึ้น ก็สามารถใช้การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เติมปากด้วยทรงนี้ได้ ปากจะดูเป็นธรรมชาติคงรูปเช่นเดิม แต่มีความอวบอิ่มและชุ่มชื่นมากขึ้น

Cupid: ปากทรงคิวปิด

รูปปากทรงนี้จะฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เน้นรูปร่างบริเวณรอยหยักของริมฝีปากบนที่เราเรียกกันว่า Cupid’s Bow ให้เด่นชัดสวยงาม เพิ่มความคมชัดให้มากขึ้นโดยการเติมขอบริมฝีปากเล็กน้อย เท่านี้ก็เซ็กซี่แล้ว ไม่เชื่อลองดูปากของ Taylor Swift สิ! นั่นแหละ ใช่เลย

Pearl: ปากทรงไข่มุก

เป็นอีกหนึ่งทรงปากที่เน้นความอวบอิ่มของริมฝีปากล่าง โดยจะฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ให้บริเวณปากล่างดูอิ่ม มองดูแล้วเหมือนมีไข่มุกสองก้อนเรียงตัวกัน โดยมีรอยแบ่งบาง ๆ อยู่ตรงกลาง สาว ๆ ที่เลือกปากทรงนี้มักต้องการความอ่อนกว่าวัยที่ดูเป็นสาวแรกแย้ม อิ่มเอิบ

Angel: ปากทรงนางฟ้า

ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ทรงนี้จะฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์เข้าไปทั้งริมฝีปากบนและล่างให้มีความอวบอิ่มเท่ากัน เหมาะกับผู้ที่มีปากแคบเล็ก รูปปากหลังฉีดจะดูคล้ายปีกนางฟ้าเช่นเดียวกับดาราสาวสวยแห่งฮอลลีวูดอย่าง Liv Tyler นั่นเอง

Cherry Lip: ปากทรงกระจับหรือทรงเชอร์รี

ทรงฮิตยอดนิยมที่มาแรงในปี 2025 เลยก็ว่าได้ ลักษณะปากทรงนี้จะมีการเติมติ่งที่บริเวณริมฝีปากบนเล็กน้อย ให้ดูเป็นกระจับคล้ายรูปตัว M ส่วนริมฝีปากล่างก็จะใช้การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ให้อวบอิ่มเหมือนเชอร์รี่สองลูก จึงนิยมเรียกกันว่าปากเชอร์รี่ แถมด้วยการยกมุมปากทั้งสองอีกเล็กน้อย ก็จะได้ทรงปากแนวเกาหลียอดฮิตที่รับกับกรอบหน้าแบบเอเชียอย่างคนไทยเราเสียเหลือเกิน ดูมีเสน่ห์น่าเย้ายวนแบบเป็นธรรมชาติมากเลยหล่ะ

Sexy Lip: ปากสายฝอ

ทรงปากในฝันของสาวๆ ที่เน้นความอวบอิ่มทั้งริมฝีปากบนและล่าง โดยมีขอบปากไม่ชัดเจนนัก แม้จะเป็นริมฝีปากแสนเย้ายวนในฝัน แต่ก็ดูไม่ค่อยเหมาะกับโครงหน้าของชาวเอเชียอย่างเราๆ สักเท่าไหร่ แต่ก็ลองเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกก็ได้นะ

อย่างที่บอกไปว่าการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ปากจะไม่เป็นอันตราย ถ้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และคลินิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ก็อาจเจ็บตอนฉีดยาชาเล็กน้อย แต่ถือว่าไม่เยอะเมื่อเทียบกับการผ่าตัด จึงมั่นใจได้เลยว่าการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ปากนั้นเป็นการทำหัตถการอย่างหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูง เจ็บตัวน้อย และเห็นผลเร็วนั่นเอง

รีวิวโปรแกรม ฉีดฟิลเลอร์ปาก