การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการความงามยอดนิยมที่ช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก และฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีไม่อันตราย และเห็นผลรวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาใบหน้าดูโทรม หรือกระดูกโครงสร้างของใบหน้าทรุดตัวลง
อย่างไรก็ตาม หลังการฉีดฟิลเลอร์ หลายคนอาจเกิดคำถามว่า
“หลัง ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ” หรือ “กี่วันถึงจะเห็นผลเต็มที่?”
ซึ่งคำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยมากในผู้รับบริการใหม่ เพราะถึงแม้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่เนื้อฟิลเลอร์ยังต้องใช้เวลาเซ็ตตัวและเข้ากับชั้นผิวก่อนที่จะได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุดจะบวมนานแค่ไหน เห็นผลเมื่อไหร่ พร้อมแนวทางดูแลตัวเองเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน
หลัง ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นภาวะปกติ ที่มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าผิวหนัง ทำให้เส้นเลือดและเนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดการกระทบเล็กน้อย ส่งผลให้เกิดอาการบวม แดง หรือช้ำ ซึ่งมักเป็นชั่วคราวและหายได้เอง
- อาการบวมจะเริ่มขึ้นภายใน 1–2 ชั่วโมงหลังฉีด
- ช่วง 24 ชั่วโมงแรกจะบวมชัดที่สุด
- จากนั้นจะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 3–5 วัน
- และหายสนิทภายใน 7–14 วัน
หลังจากนั้นจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นเมื่อฟิลเลอร์เข้ากับชั้นผิวเต็มที่
หลัง ฉีดฟิลเลอร์ บวมกี่วัน ปัจจัยที่มีผลต่อระดับการบวม
- ตำแหน่งที่ฉีด – พื้นที่ที่ผิวบาง เช่น ใต้ตา หรือริมฝีปาก มักบวมง่ายกว่าจุดอื่น
- ชนิดของฟิลเลอร์ – ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อและเนื้อสัมผัสมีความสามารถในการอุ้มน้ำต่างกัน ส่งผลต่อระดับการบวม
- เทคนิคของแพทย์ – การใช้เข็มหรือน้ำหนักมือของแพทย์ รวมถึงความลึกของชั้นผิวที่ฉีด มีผลต่ออาการบวมและช้ำ
- สภาพผิวและร่างกายของแต่ละคน – ผู้ที่มีผิวบางหรือหลอดเลือดไวอาจมีอาการบวมมากกว่าปกติเล็กน้อย
วิธีลดอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์
- ประคบเย็น ภายใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการอักเสบและบวม
- นอนยกศีรษะสูง ในคืนแรกเพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวก ลดการคั่งของ ของเหลวใต้ผิว
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ หรือแดดจัด 48 ชั่วโมงแรก
- งดแอลกอฮอล์และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี หรือโสม
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงตัวและฟูเต็มอย่างเป็นธรรมชาติ
- หากดูแลถูกวิธี อาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลงจนเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1–2 สัปดาห์ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาอื่นๆ เพิ่มเติม
หลังฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือ เห็นผลได้ทันทีหลังทำ เนื่องจากฟิลเลอร์ทำหน้าที่เป็นสารเติมเต็มที่เข้าไปเพิ่มวอลลุ่มใต้ผิว จึงสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าได้ตั้งแต่หลังฉีดเสร็จ แต่ผลลัพธ์ที่เห็นทันทีจะยังไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้าย เพราะในช่วงแรกอาจมีอาการบวมจากการฉีดอยู่บ้าง
ระยะเวลาการเห็นผลโดยทั่วไป
หลังฉีดทันทีจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ประมาณ 70–80%
- ภายใน 3–5 วัน: อาการบวมลดลง ใบหน้าเริ่มเข้ารูป
- หลัง 7–14 วัน: ฟิลเลอร์กลืนเข้ากับเนื้อผิว เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
- หลัง 2–3 สัปดาห์: ฟิลเลอร์เข้าที่เต็มที่
หลังจากนั้นผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลรักษา
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเห็นผลเร็วหรือช้า
- บริเวณที่ฉีด: ฟิลเลอร์บางตำแหน่ง เช่น คางและร่องแก้ม จะเห็นผลชัดทันที ส่วนใต้ตาและริมฝีปากอาจต้องรอให้ยุบบวมก่อน
- ชนิดของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์เนื้อแข็งหรือเนื้อแน่นอาจใช้เวลานานกว่าเนื้ออ่อนในการเข้าที่
- สภาพผิวของแต่ละบุคคล: ผู้ที่มีการไหลเวียนเลือดไวหรือผิวบอบบางอาจเห็นผลช้ากว่า
- การดูแลหลังฉีด: หากหลีกเลี่ยงความร้อน ดื่มน้ำมาก และไม่กดบริเวณที่ฉีด จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น
เคล็ดลับช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว
- ดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและฟูขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ออกกำลังกายหนัก
- รออย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนแต่งหน้า
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงเพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิว
สรุปคือ ฟิลเลอร์จะเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุดภายใน ประมาณ 2–3 สัปดาห์ หลังจากนั้นผิวจะดูเรียบเนียน ฟู และเป็นธรรมชาติอย่างเต็มที่
ฟิลเลอร์แต่ละจุด บวมกี่วัน กี่วันเห็นผล
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ช่วยลดรอยคล้ำ เบ้าตาลึก หรือใต้ตาหย่อน ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนวัยขึ้นทันที
อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงใน 3–5 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2–3 สัปดาห์
การดูแลหลังฉีด
- 1-3 วันแรก ล้างหน้าได้แต่ไม่ขัดถูหรือขัดแรงๆ
- งดซาวน่าและทรีตเมนต์ร้อน 7 วัน
- อยู่ในที่เย็นจะช่วยลดบวมได้เร็วขึ้น
👉 อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน อันตรายไหม ควรเลือกยี่ห้อไหนดี?
ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปากช่วยปรับทรงให้ปากดูอิ่มฟู แก้ปัญหาปากแห้งหรือปากไม่เท่ากัน
อาการบวมจะอยู่ประมาณ 3–5 วัน และฟิลเลอร์จะเข้าที่ใน 1–2 สัปดาห์
คำแนะนำหลังฉีด
- ห้ามใช้หลอดดูดน้ำใน 12 ชั่วโมงแรก เพราะฟิลเลอร์ยังไม่เซ็ทตัว อาจะทำให้รูปปากที่ฉีดมาผิดเพี้ยนได้
- งดเครื่องดื่มร้อนและแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
- ไม่ควรบีบหรือคลึงริมฝีปาก
👉 อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปาก อวบอิ่ม สวยเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์คาง
เหมาะสำหรับคนที่คางสั้นหรือคางถอย ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นทันที
หลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อย 3–5 วัน และเข้าที่ภายใน 1–2 สัปดาห์
การดูแลหลังฉีด
- ห้ามนวดหรือปั้นคางเอง
- งดนอนคว่ำและเท้าคาง
- หลีกเลี่ยงหมวกกันน็อคที่รัดแน่นเกินไป
👉 อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์คาง และกรอบหน้า ปรับโครงสร้างให้ดูละมุน
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ช่วยเติมเต็มร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
บวมเล็กน้อย 2–3 วันแรก และเห็นผลชัดใน 7–14 วัน
ข้อควรปฏิบัติ
- งดขยับใบหน้ามากเกินไปใน 1-3 วันแรก
- ไม่ควรเกา หรือนวดบริเวณร่องแก้ม
👉 อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เรียบเนียน ละมุน ดูอ่อนกว่าวัย
ฟิลเลอร์ขมับ
ช่วยเติมขมับที่ยุบให้ใบหน้าดูอิ่มสมส่วน และลดความเด่นของโหนกแก้ม
บวมเล็กน้อยใน 4–5 วันแรก เห็นผลชัดใน 2–3 สัปดาห์
หลังฉีดควร
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง
- งดกดนวดขมับ
👉 อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ขมับ ปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้ง ปรับรูป หน้าให้ละมุน
ฟิลเลอร์หน้าผาก
ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบนหรือไม่เรียบ เพิ่มความโค้งมนให้ใบหน้า
อาการบวมจะค่อย ๆ หายภายใน 7–14 วัน
ดูแลหลังฉีด
- ห้ามนวดหรือกดหน้าผาก
- หลีกเลี่ยงการนอนราบ 3–4 ชั่วโมงหลังฉีด
- งดซาวน่าและเลเซอร์ร้อน 2 สัปดาห์
ฟิลเลอร์จมูก
ช่วยเสริมสันจมูกให้โด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด
บวมประมาณ 3–5 วัน และเห็นผลเต็มใน 1–2 สัปดาห์
คำแนะนำหลังฉีด
- ห้ามบีบหรือปั้นทรงเอง
- งดออกกำลังกาย 48 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น เลเซอร์ผิว
ฟิลเลอร์แก้มตอบ
ช่วยเติมเต็มบริเวณแก้มที่ยุบหรือดูโทรม ให้ใบหน้าดูอิ่มฟูและสดใสขึ้น
บวมเล็กน้อยใน 3–5 วันแรก เห็นผลเต็มใน 1–2 สัปดาห์
หลังฉีดควร
- ห้ามนวดหรือกดแก้มแรง
- งดออกกำลังกายหนักใน 48 ชั่วโมงแรก
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟูเร็วขึ้น
ฟิลเลอร์โหนกแก้ม
เหมาะสำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มยุบหรือไม่เท่ากัน ฟิลเลอร์จะช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลและละมุนขึ้น
อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 3–4 วัน และเห็นผลชัดใน 1–2 สัปดาห์
ดูแลหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง
- งดนวดหรือสัมผัสแรง ๆ
- งดซาวน่าและเลเซอร์ 2 สัปดาห์
- วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
สิ่งที่ควรทำ
- ดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและฟูเต็ม
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง
- พักผ่อนให้เพียงพอ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- ห้ามกด แกะ หรือถูบริเวณที่ฉีด
- งดซาวน่า ออกกำลังกายหนัก หรืออยู่กลางแดด 48 ชั่วโมง
- งดเลเซอร์ร้อน เช่น RF, Thermage อย่างน้อย 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง ของรสจัด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
👉 อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์โหนกแก้ม แก้ปัญหาโหนกแก้มชัด ให้ดูละมุนอ่อนกว่าวัย
สรุป
โดยทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 4–5 วันแรก จากนั้นอาการจะค่อย ๆ ยุบลงและหายเป็นปกติภายในประมาณ 1–2 สัปดาห์
ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่ภายใน 2–3 สัปดาห์ หลังจากนั้นผิวจะดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น หลีกเลี่ยงความร้อน งดนวดหน้า และดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น คงผลลัพธ์ได้นาน และดูเป็นธรรมชาติที่สุด

